“ผมอยากจะนำประสบการณ์การเล่นละครที่ได้รับมาสู่ THE RAMPAGE โฉมหน้าที่แท้จริงของโยชิโนะ โฮคุโตะ หนุ่มวัย 21 ปีที่รักการร้องเพลงและผองเพื่อน”
“นายเหมือนทาคาฮิโระเลยนะ” ความเห็นของเพื่อนร่วมชั้นที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต
เมื่อเดือนเมษายน ปี 2014 โยชิโนะซังได้ผ่านรายการออดิชั่น “VOCAL BATTLE AUDITION 4” ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขันถึง 3,000 คน ในขณะที่มีนักเรียนจาก EXPG (EXILE PROFESSIONAL GYM) ลงสมัครเป็นจำนวนมาก โยชิโนะซังที่เรียนร้องเพลงด้วยตัวเองนั้นก็ดึงดูดความสนใจหลายๆคนโดยการชนะออดิชั่น ช่วยเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ทำให้คุณเข้าร่วมการออดิชั่นหน่อย
ผม…ชอบ EXILE ตั้งแต่สมัยม.ต้น ผมดูรายการเพลงทางทีวีตลอดครับ
พอผมขึ้นม.ปลาย ผมก็เริ่มมีความคิดอยากที่จะเป็นนักร้องครับ จากตอนนั้น ผมได้เข้าร่วมการออดิชั่นหลายที่ ซึ่งการออดิชั่นที่ผมเข้าร่วมตอนอายุ 17 ปีก็คือ VOCAL BATTLE AUDITION 4
การออดิชั่นจัดขึ้นในโตเกียวและโอซาก้า และเพราะตอนนั้นผมอาศัยอยู่ที่มิยาซากิ ผมจึงไปเข้าร่วมการออดิชั่นที่โอซาก้า
กับครอบครัว?
ครับ ไปกับคุณพ่อและคุณแม่
ในที่ออดิชั่น ทุกคนต่อคิวเพื่อเอาป้ายชื่อ ซึ่งตอนที่ผมต่อคิวอยู่นั้น ตากล้องก็เรียกผม และถามว่า “ขอสัมภาษณ์หน่อยได้ไหม?” จากนั้นผมก็เลยให้สัมภาษณ์ครับ พวกเขารอสัมภาษณ์ผมจนกระทั่งการออดิชั่นเสร็จ ตอนที่พวกเขารู้ว่าผมมากับครอบครัว พวกเขาก็ “งั้นขอสัมภาษณ์คุณพ่อกับคุณแม่ด้วยนะ”
หลังจากนั้นคุณแม่ คุณพ่อ และผมก็ถูกสัมภาษณ์ครับ ซึ่งการสัมภาษณ์นั้นได้ออกอากาศในรายการ “週刊EXILE” ด้วย คุณพ่อกับคุณแม่ผมตกใจมากเลยล่ะครับ (หัวเราะ)
ครอบครัวของคุณสนับสนุนให้คุณเข้าร่วมการออดิชั่นไหม?
นั่นสินะครับ เพราะว่าผมไปคาราโอเกะคนเดียวทุกวันเลย (หัวเราะ) ผมคิดว่าพวกท่านคงรู้ว่าผมอยากเป็นนักร้องล่ะครับ
“เรียนร้องเพลงด้วยตัวเอง” เป็นสิ่งที่ทุกคนพูดถึงกันเยอะมาก แต่จริงๆแล้วเป็นแค่การร้องคาราโอเกะสินะ
ใช่ครับ พอโรงเรียนเลิกผมก็จะตรงไปคาราโอเกะ นอกนี้ยังมีบทเรียนที่คาราโอเกะอีก และเพราะว่าผมอยู่ต่างจังหวัด การร้องคาราโอเกะจึงเป็นบทเรียนการร้องเพลงอย่างเดียวของผมครับ
คุณพยายามอย่างหนักเลยสินะ ถ้าอย่างนั้นชอบร้องเพลงตั้งแต่สมัยเด็กเลยหรือเปล่า?
ใช่ครับ
เมื่อสักครู่นี้ คุณบอกว่าชอบ EXILE ตั้งแต่สมัยม.ต้น มีเหตุผลที่ชอบหรือเปล่า?
ตอนที่ผมอยู่ม.ต้น เพื่อนของผมบอกว่า “นายเหมือนทาคาฮิโระ EXILE เลยนะ” ซึ่งตอนนั้น ผมยังไม่รู้จัก EXILE เลยครับ ดังนั้นผมจึงคิดว่า “เขาเป็นคนแบบไหนกันนะ?” แล้วก็เริ่มค้นหาดูครับ จากนั้นก็ได้แต่พูดว่า “ทาคาฮิโระซัง…เท่มากเลย!” ผมรู้สึกมีความสุขมากเลยครับที่มีคนบอกว่าผมเหมือนกับเขา (หัวเราะ)
ก็จริงนะ คุณดูเหมือนเขาเลย!
ขอบคุณครับ (เขิน) พอหลังจากนั้น ผมก็ฟังเพลงของทาคาฮิโระซังตลอดเลยครับ แล้วจู่ๆผมก็ติดเพลงของเขา ซึ่ง EXILE คือศิลปินกลุ่มแรกที่ผมชอบด้วยครับ
เขาตกใจมากตอนที่เห็นการออกอากาศทาง TV “ทำไมฉันถึงพูดช้าขนาดนี้เนี่ย”
THE RAMPAGE เป็นวงขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกถึง 16 คน แล้วปกติบรรยากาศภายในวงเป็นอย่างไรบ้าง?
พวกเราเหมือนกับนักเรียนม.ปลายที่อยู่ในช่วงพักเบรคเลยครับ พวกเราเล่นซนและหัวเราะให้กันกับเรื่องไร้สาระ จริงๆแล้วพวกเรานั้นธรรมดามากๆครับ
แนวเพลงของวงเราคือ ฮิพฮอพ ซึ่งทุกคนก็รักษาภาพลักษณ์ของวงโดยการสร้างบุคลิกแมนๆขึ้นมาครับ…(หัวเราะ) แต่จริงๆแล้วในใจของพวกเรานั้นบริสุทธิ์ ขยันขันแข็ง และอดทนนะครับ
ใน THE RAMPAGE ตำแหน่งของคุณคือ?
ตำแหน่งหรอครับ? อืม… (คิดอยู่พักหนึ่ง)
คุณเป็น Mood Maker หรือเปล่า?
ไม่เลยครับ (หัวเราะ) แต่ผมคิดว่าถูกแกล้งอยู่บ่อยๆนะ
ได้ยินมาว่าคุณมีบุคลิก My Pace (ไม่สนใจรอบข้าง)
อ่า นั่นสินะครับ อย่ารบกวนโลกของผม ผมมักจะฝันกลางวันอยู่ในโลกของตัวเอง (หัวเราะ)
ช่วยเล่าเรื่องความเป็นตัวเองของคุณมาสักเรื่องได้ไหม?
ผมไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะถือเป็นคำตอบได้ไหม แต่…ผมดูรายการ TV ที่ออกอากาศ และผมก็ตกใจว่า “ฉันพูดช้าขนาดนี้เลยหรอเนี่ย” ผมรู้สึกช็อคนิดหน่อยครับ
หมายถึงคุณอยากพูดให้เร็วกว่านี้น่ะหรอ?
ใช่ครับ บางครั้งผมก็ดูง่วงๆใช่มั้ยล่ะครับ ผมรู้ตัวก็ตอนที่ได้ดูรายการที่ออกอากาศนี่ล่ะ…
แล้วเคยมีสมาชิกคนไหนชี้ให้เห็นจุดนี้บ้างไหม?
ลีดเดอร์ จินซังบอกกับผมว่า “ตื่นตัวให้มากกว่านี้หน่อย!” แต่ก็เป็นความตั้งใจที่จะตื่นตัวให้มากกว่านี้ล่ะนะ…(หัวเราะ)
ความทรงจำในวันเกิดครบรอบ 20 ปี เขาไม่สามารถดื่มเลม่อนซาวาได้…
โวคอลของ THE RAMPAGE ทั้ง 3 คนคือ ริคุซัง คาวามูระซัง (คาซึมะ) และโยชิโนะซัง พวกคุณมีความสัมพันธ์กันอย่างไร?
พวกเราเป็นคู่แข็งที่ดี เป็นการมีอยู่เพื่อเพิ่มพลังซึ่งกันและกัน พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีครับ
พวกคุณเล่นอะไรเวลาอยู่ด้วยกัน?
เล่นเกมครับ คาซึมะเป็นคนที่ชอบเล่นเกมมากที่สุด เราชอบเล่น “มาริโอคาร์ต” กัน อ่า แล้วเวลาคาซึมะซื้อเกมใหม่มา “มาเล่นด้วยกันเร็ว” เขาจะชวนผมตลอดเลยล่ะครับ
คุณฉลองวันเกิดของสมาชิกทุกคนเลยไหม?
ครับ (โกโตะ) ทาคุมะฉลองวันเกิดของเขาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ดังนั้นตอนนี้สมาชิกทุกคนจึงมีอายุครบ 20 ปีกันหมดแล้ว สมาชิกทุกคนก็มาฉลองวันเกิดให้ทาคุมะ ยกเว้นผม อิทสึกิ และมาโกโตะที่มาสายเพราะพวกเรามีถ่าย PRINCE OF LEGEND และเมื่อพวกเรามาถึงงาน ทุกคนก็กำลังดื่มกัน และทาคุมะก็เริ่มเมานิดหน่อยแล้วด้วยครับ (หัวเราะ)
พอคุณพูดถึงเรื่องนี้ คุณอายุครบ 20 ปีตอนที่เป็นสมาชิก THE RAMPAGE คุณได้ฉลองวันเกิดร่วมกับทุกคนไหม?
ครับ วันเกิดผมตอนนั้นสุดยอดมาก… ผมรู้สึกว่าวันเกิดของผมจะถูกจำเป็นประวัติศาสตร์เลยล่ะครับ (หัวเราะ)
ในวันนั้น พวกเราเป็นซัพพอร์ตเมมเบอร์ให้กับการแสดงของ EXILE THE SECOND แต่รุ่นพี่ก็เซอร์ไพส์ผม และฉลองวันเกิดให้กับผม ตอนนั้น ผมดื่มเลม่อนซาว่าแค่แก้วเดียว ผมก็ไม่สามารถดื่มหมดแก้วได้แล้ว สุดท้ายนั้น (คุโรคิ) เคย์จิซังก็ดื่มแทนผมครับ (หัวเราะ)
ได้ยินมาว่าผู้ชายคิวชูคอแข็งนะ
ผมไม่ได้คอแข็งแบบนั้นน่ะสิครับ (หัวเราะ) ตอนวันเกิดของผม ยังมีสมาชิกที่ยังอายุไม่ถึง 20 ด้วย ผมก็เลยดื่มกับสมาชิกที่สามารถดื่มได้ แต่ผมก็คออ่อนมากครับ
เมื่อก่อนน่ะหรอ…!?
ผมเมาเละเลยล่ะครับ (หัวเราะ)
สนิทกับใครมากที่สุดในวง?
จริงๆก็สนิทกับทุกคน แต่อยู่กับ (ฟูจิวาระ) อิทสึกิมากที่สุดครับ
สิ่งที่โยชิโนะซังชอบใน THE RAMPAGE คือ?
ผมสามารถเป็นคนที่ไม่ใช่แบบปกติ ผมสามารถเป็นนักร้อง ปกติภาลักษณ์ของผมจะดูไม่ค่อยแมนเท่าไหร่ แต่ในฐานะ THE RAMPAGE เวลาที่ผมยืนอยู่บนเวที ผมสามารถเปลี่ยนตัวเองสู่โหมดนักร้องได้ครับ
เป็นวงที่เท่จริงๆนะ ผมรู้สึกภูมิใจมากที่ได้เป็นสมาชิก THE RAMPAGE
ละครเรื่องแรกคือความท้าทายในปี 2018 นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้ “การรุก” อีกด้วย?
คุณได้รับบทเป็นเจ้าชายนักเต้นเรด เทนโด โคคิ จากทีมเน็กซ์ ในละครเรื่อง PRINCE OF LEGEND ซึ่งออกอากาศไปเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2018 การเดบิวท์ในฐานะนักแสดงเป็นอย่างไรบ้าง?
อ่า…ตอนแรกผมกังวลมากเลยล่ะครับ ผมพยายามจะพูด เพื่อที่บทจะได้ไม่สะดุด ผม อิทสึกิ และมาโกโตะจากทีมเดียวกัน ทีมเน็กซ์ พวกเราพยายามอย่างหนักในการอ่านบทและนำบทมาเปรียบเทียบกันครับ
ผมได้รับคำแนะนำจากผู้กำกับเกี่ยวกับละครเรื่องนี้ บางครั้งผมก็ได้รับคำชมจากสตาฟ…แต่เป็นแค่บางครั้งบางคราวเท่านั้นนะครับ (หัวเราะ)
เพราะว่านี่เป็นการแสดงครั้งแรก คงมีเรื่องน่าอายอยู่เยอะเลยสินะ
ใช่แล้วล่ะครับ… การเล่นตามบทนั้น ไม่ใช่แค่การอ่านบทเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องแสดงความรู้สึกออกมาด้วย ต้องใส่ใจอิมเมจ ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างเลยล่ะครับ ซึ่งความต้องการของผมเกิดขึ้นจากละครเรื่องนี้ ช่วงนี้ผมก็เลยชอบดูละครครับ
สิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกสนุก?
ผมรู้สึกว่าผมไม่ใช่ตัวเอง… ผมรู้สึกสนุกมากเวลาที่ได้เล่นเป็นคนอื่น ผมได้ทำในสิ่งที่ไม่ค่อยได้ทำ และได้พูดในสิ่งที่ไม่ค่อยได้พูด สิ่งเหล่านี้คือความสนุกในละครเรื่องนี้ครับ
ในละครเรื่อง “PRINCE OF LEGEND” มีคำที่ปกติคุณไม่น่าจะพูดอยู่เยอะเลยนะ
อ่า…น่าอายจังครับ (หัวเราะ)
“ผมจะปกป้องคะนงซังเอง” หรือ “ตั้งแต่วันนี้ไปผมจะจีบคุณแล้วนะ” คำหวานๆของเทนโด โคคิที่จะทำให้หัวใจเต้นรัว
เพราะนี่เป็นการแสดงครั้งแรกของผม มันน่าอายมากๆเลยล่ะครับ…ฮิฮิฮิ (จำเรื่องตลกๆขึ้นมาได้) แต่ผมก็สามารถจัดการมันได้
ได้ดูละครที่ตัวเองแสดงไหม?
แน่นอนครับ แต่เหมือนไม่ใช่ตัวผมเลยล่ะ (หัวเราะ)
คุณได้พูดและฟังหลายๆคำที่ทำให้หัวใจเต้นระรัว ได้เรียนรู้หัวใจของสาวๆบ้างไหม?
ได้เรียนรู้เยอะเลยล่ะครับ! (หัวเราะ) เพราะว่าสตาฟบอกว่า “รุกอีก! รุกอีก!” ในตอนแรกผมกังวลมากครับว่าจะรุกยังไงดี ผมคิด “ทำไม่ได้หรอก!”…
แต่พอการถ่ายทำเริ่มขึ้น “มันรู้สึกอย่างนี้นี่เอง?” ผมก็เริ่มเข้าใจความรู้สึกมากขึ้นทีละน้อย แต่ยังไงก็ตาม มันก็ยังคงน่าอายอยู่ดีครับ (หัวเราะ)
ยังไม่พอใจกับสถานการณ์ปัจจุบัน สุดท้ายแล้วความท้าทายก็ดำเนินต่อไม่มีวันสิ้นสุด
คุณได้ร้องเพลงประกอบละคร “PRINCE OF LEGEND” กับเพลง “Too Shy” ของ Kajagoogoo ซึ่ง m-flo เป็นคนนำมาโปรดิวซ์ใหม่ให้ รู้สึกยังไงตอนที่อัดเพลงนี้?
การร้องเพลงเดี่ยวเป็นสิ่งที่ผมอยากลองมาตลอด นอกจากนี้ ผมยังร้องเพลงนี้ในฐานะที่ไม่ใช่ THE RAMPAGE ก็เลยมีความรู้สึกที่แตกต่าง เพราะว่ามุมมองของโลกและออร่าของเพลงแตกต่างกับ THE RAMPAGE ผมรู้สึกแบบ “ฉันเป็นใครเนี่ย?” (หัวเราะ)
เนื่องจากเพลงนี้เป็นเพลงที่โด่งดังมากในปี 1980 ดังนั้นตอนนั้นสมาชิกวง Kajagoogoo ในตอนนั้นอาจจะมีอายุเท่าๆกับผมก็ได้ เป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งครับ
ได้เจออะไรใหม่ๆตอนร้องเพลง “Too Shy” บ้างไหม?
ผมดีใจที่ผมได้รับการท้าทายในครั้งนี้ ผมคิดว่าผมมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ดังนั้นผมจึงอยากใช้มันให้เป็นประโยชน์
ก่อนที่จะมีละครเรื่อง “PRINCE OF LEGEND” นั้น “HiGH&LOW” ก็เคยเป็นซีรีส์ที่โด่งดังมาก่อน มีสมาชิกจาก THE RAMPAGE ถึง 5 คนได้ร่วมแสดงด้วย รู้สึกผิดหวังไหมที่ไม่ได้ร่วมแสดงในซีรีส์เรื่องนี้?
จริงๆแล้วก็ไม่นะครับ…(หัวเราะ) อืม แต่ผมก็อยากต่อสู้เหมือนกันนะ ใช่ ผมอยากลองสู้ดูครับ
ผมอยากแสดงบทไหนก็ได้ ในฐานะนักแสดง ผมอยากจะแสดงออกให้มากขึ้น ผมสามารถแสดงเป็นเจ้าชายได้ ดังนั้นผมก็สามารถแสดงบทแมนๆได้เหมือนกันครับ
คุณทำกิจกรรมในปี 2018 เยอะแยะเลย และความนิยมของคุณเพิ่มขึ้นด้วย ว่าแต่โยชิโนะซัง คุณรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันไหม?
เอ่อ…ผมคิดว่ายังนะครับ แต่ตอนที่ผมขึ้นโชว์ในรายการ “FNS Music Festival” ตอนสิ้นปี ได้มีกระแสตอบรับมากมายเลยล่ะครับ ผมรู้สึกถึงกระแสตอบรับได้ด้วยตัวเอง…แต่ถึงยังไงผมก็ยังไม่พอใจหรอกนะครับ
มีคนเข้ามาคุยด้วยไหมตอนเดินบนถนนในช่วงส่วนตัว?
ไม่มีเลยครับ (พูดตรงๆ) อ่า จริงสิ เคยมีครั้งหนึ่งตอนอยู่ที่ชิบูย่า แต่ก็ยังไม่มีหรอกครับ
รู้สึกว่าได้เข้าใกล้ความฝันขึ้นทีละเล็กทีละน้อยไหม?
…ครับ ผมรู้สึกว่ากำลังขึ้นบันไดอย่างมั่นคงอยู่นะ
ในปี 2019 ผมก็อยากท้าทายกับงานแสดง แล้วก็อยากนำประสบการณ์ที่ได้รับจากการแสดงมาร่วมในวงด้วยครับ
กิจกรรมของโยชิโนะซังเนี่ยเกี่ยวข้องกับ THE RAMPAGE ทั้งหมดเลย?
ครับ ผมชอบร้องเพลง แล้วก็คติประจำใจของผมคือ “ทุกอย่างเพื่อ THE RAMPAGE”
CREDIT
Source: news.livedoor.com
English Translated: @nmmiiimiii
Thai Translated: moonoiaom
DO NOT TAKE OUT UNTIL GETTING MY PERMISSION
AND PLEASE ALSO TAKE OUT WITH FULL CREDITS
moonoiaom 